2) ระบบ Eagle Eyes Thailand (https://eagleeyesthailand.com) เป็นช่องทางการแจ้งเบาะแสและเรื่องร้องเรียนการทุจริตสำหรับประชาชน
3) ระบบ e-Service Center (https://e-servicethai.com) เป็นต้นแบบนวัตกรรมเพื่อลดการให้หรือรับสินบนในกระบวนการติดต่อหรือขอรับบริการจากหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการรวบรวมระบบ e-Service การให้บริการของหน่วยงานภาครัฐกว่า 100 กระบวนงาน
เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2567 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ จัดประชุมเผยแพร่ผลการดำเนินแผนงานวิจัยการพัฒนานโยบายและต้นแบบการยกระดับค่าคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริตของประเทศไทย ณ ห้องแมกโนเลีย โรงแรม ทีเค พาเลซ แอนต์ คอนเวนชั่นในการนี้ได้รับเกียรติจาก ดร.ดาวน้อย สุทธินิภาพันธ์ สมาชิกวุฒิสภา เข้าร่วมกล่าวบรรยายพิเศษ ในหัวข้อ “คอร์รัปชันในไทย แก้อย่างไรให้ค่าคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต หรือค่า CPI เพิ่ม” และมี พล.ต.ท.ดร.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เป็นประธานในพิธีเปิดงาน และ ผศ.พ.ต.อ.ดร.ธิติ มหาเจริญ รองคณบดีคณะนิติวิทยาศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ผู้บริหารจัดการแผนงาน กล่าวรายงาน โดย ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (ผอ.วช.) ได้มอบหมายให้ นางสาวสตตกมล เกียรติพานิช ผู้อำนวยการกองบริหารทุนวิจัยและนวัตกรรม 2 กล่าวนโยบายสำนักงานการวิจัยแห่งชาติกับการขับเคลื่อนงานวิจัย ผ่านระบบ zoom meetingดร.ดาวน้อย สุทธินิภาพันธ์ สมาชิกวุฒิสภา ได้กล่าวบรรยายพิเศษ ในหัวข้อ “คอร์รัปชันในไทย แก้อย่างไรให้ค่า CPI เพิ่ม” โดยให้ข้อมูลว่า การเปิดเผยข้อมูลภาครัฐ จะทำให้ประชาชนสามารถรับรู้การดำเนินการ ขั้นตอนและการใช้งบประมาณ ของภาครัฐ ซึ่งการมีข้อมูลที่ภาครัฐจริงใจในการเปิดเผยอย่างครบถ้วน จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และเป็นแนวทางสำคัญที่นำไปสู่การแก้ไขปัญหาคอร์รัปชัน และสามารถช่วยเพิ่มคะแนน CPI ของประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรมพล.ต.ท.ดร.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ได้กล่าวถึงความสำคัญของการประชุมเผยแพร่ผลการดำเนินแผนงานวิจัยการพัฒนานโยบายและต้นแบบการยกระดับค่าคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริตของประเทศไทย ซึ่งโรงเรียนนายร้อยตำรวจได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยและนวัตกรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 จาก (วช.) ซึ่งมีโครงการวิจัยย่อยจำนวนทั้งสิ้น 3 โครงการ โดยมีวัตถุประสงค์ของแผนงานเพื่อทบทวนนโยบายและยุทธศาสตร์ การสำรวจการรับรู้การมีส่วนร่วมของภาคประชาชนและภาคธุรกิจ การสร้างนวัตกรรมต้นแบบ และจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายและยุทธศาสตร์ ในการรขับเคลื่อนการยกระดับค่าดัชนีการรับรู้การทุจริตของประเทศไทยอันจะนำไปสู่การผลักดันและขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการยกระดับคะแนน CPI ของประเทศไทยที่เป็นไปตามตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายในแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติผศ.พ.ต.อ.ดร.ธิติ มหาเจริญ รองคณบดีคณะนิติวิทยาศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ในฐานะผู้บริหารจัดการโครงการวิจัยกล่าวว่า แม้หลายปีที่ผ่านมาประเทศไทยจะมีความพยายามในการยกระดับค่า CPI ผ่านมาตรการเชิงบวกต่างๆ อย่างต่อเนื่อง แต่ผลที่ได้รับยังไม่สามารถสร้างการรับรู้และความตระหนักถึงความสำคัญของดัชนีการรับรู้การทุจริตให้เป็นที่รับรู้อย่างกว้างขวางได้ แผนงานวิจัยดังกล่าวนี้ จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อการทบทวนนโยบายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการรับรู้และการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน การสร้างนวัตกรรมต้นแบบเพื่อเป็นกลไกเชิงรุกในการเฝ้าระวังและต่อต้านการทุจริตที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการเสนอมาตรการที่จะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการยกระดับค่า CPI ได้ในเชิงรูปธรรมทั้งในระดับนโยบายและระดับปฏิบัติการ โดยมีโครงการย่อยภายใต้แผนงาน จำนวน 3 โครงการ และมีผลผลิตที่สำคัญ ได้แก่1) ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายและยุทธศาสตร์การยกระดับค่า CPI ใน 5 ด้าน 16 นโยบาย การเปิดเผยข้อมูลการเงินการคลังประเภทเงินทุนหมุนเวียน เงินกองทุน เงินนอกงบประมาณ การแก้ปัญหาสินบนโดยประยุกต์ใช้มาตรฐาน ISO 37001
No comments:
Post a Comment