“อลงกรณ์” ชี้ไทยเสี่ยง “รัฐล้มเหลว” ผนึกทุกภาคส่วน ดึงสมาคมต้านโกงร่วมเป็นเครือข่ายขจัดทุจริต - สำนักข่าวพิมพ์ไทย | www.phimthai.com

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Search This Blog

Saturday, June 7, 2025

“อลงกรณ์” ชี้ไทยเสี่ยง “รัฐล้มเหลว” ผนึกทุกภาคส่วน ดึงสมาคมต้านโกงร่วมเป็นเครือข่ายขจัดทุจริต

“สถาบัน FKII” ผนึก “สมาคมสื่อต้านโกง” สร้างเครือข่าย “ใยแมงมุม ต้านทุจริต” พร้อมดึงภาค ปชช.มีส่วนร่วมแจ้งเบาะแส “อลงกรณ์” ชี้คอร์รัปชั่นทำรัฐล้มเหลว! ปมปัญหากัดเซาะบ่อนทำลายประเทศ บ่มหนี้สิน-คนไทยยากจน ชวนจับตาใช้จ่ายงบก้อนโต 3.78 ล้านล้าน ยกเคส “เสาไฟส่องสว่าง” ต้นทุนไม่ถึงหมื่น แต่ “ท้องถิ่น” งาบไปต้นละ 7 หมื่น ย้ำไม่ใช่กินเล็กกินน้อย แต่กำลังกัดกินทั้งประเทศ ลั่นถึงเวลาลุกขึ้นสู้เพื่ออนาคตที่ดีกว่า
เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.68 นายอลงกรณ์ พลบุตร ประธานสถาบัน FKII และอดีตรมช.พาณิชย์ กล่าวถึงปัญหาคอร์รัปชั่นที่วันนี้ได้กลายเป็นต้นเหตุใหญ่ความยากจนของประชาชน โดยชี้ว่า คอร์รัปชั่นคือปัญหาใหญ่ที่ทำให้ประเทศนี้ยังล้าหลังและเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ด้วยสถานการณ์คอร์รัปชันที่รุนแรงมากขึ้น ทำให้สถานภาพของประเทศลดลง นั่นหมายความว่า ความยากจนและหนี้สินก็เพิ่มขึ้น
“คอร์รัปชั่นทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ เสาหลักของประเทศคือหลักนิติรัฐ นิติธรรม ก็ถูกบ่อนทำลาย จนหลายคนบอกว่าเรากำลังจะเป็นรัฐที่ล้มเหลว ที่ไม่ได้หมายความถึงความล้มเหลวทางด้านเศรษฐกิจ แต่ว่าเป็นรัฐที่ล้มเหลวในด้านของการเคารพในกฎหมาย”
นายอลงกรณ์ ยกกรณีตึก สตง.ถล่ม ซึ่งถือเป็นฟางเส้นสุดท้าย ที่ยืนยันคำพูดที่บอกว่า วันนี้คอร์รัปชั่นไม่ใช่เป็นเพียงการฉ้อฉลผลประโยชน์หรืองบประมาณ แต่ว่าคอร์รัปชั่นได้เป็นสาเหตุของการเป็นฆาตกร สตง.ซึ่งเป็นหน่วยตรวจสอบ แต่กลับพบว่ามีการฉ้อฉล จนเป็นสาเหตุของตึกถล่มเพียงตึกเดียวในประเทศไทย ตรงนี้เป็นสิ่งที่ชี้วัดให้เห็นว่า การที่ประเทศไทยถูกประเมินว่าเป็นประเทศที่มีการรับรู้การทุจริต ซึ่งจัดทุกปีโดยองค์กรความโปร่งใสระหว่างประเทศ หรือ Transparency International เราอยู่อันดับที่ 107 จาก 180 ประเทศ ได้คะแนนเพียง 34 คะแนน ไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำไป


“ประเทศไทยสอบตกมายาวนาน 10 กว่าปี ทั้งอันดับก็ร่วงหล่นลงมา ทั้งระดับโลก ในอาเซียนก็หล่นจากอันดับ 4 มาเป็น 5 ทุกอย่างถดถอยหมด” 
ทั้งนี้ สมาคมผู้สื่อข่าวต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) ได้เข้าเป็นภาคีเครือข่ายในการแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชันในประเทศไทย ร่วมกับสถาบัน FKII ที่ตนเป็นประธาน ซึ่งนอกจากเราทำหน้าที่ในการอัปเกรดประเทศด้วยองค์ความรู้ เทคโนโลยีใหม่ๆ แล้ว อีกภารกิจที่สำคัญคือ การอุดช่องโหว่ที่เป็นรูรั่วใหญ่ นั่นคือการคอร์รัปชั่น จึงได้เปิดตัว “คอรัปชั่น ฟ้องดู” เป็น Open Platform ที่เพียงแค่ถ่าย QR Code ก็สามารถแจ้งเบาะแสการทุจริตฉ้อฉลได้โดยสะดวก โดยผู้แจ้งเบาะแสไม่ต้องกังวล เพราะว่าเราใช้เทคโนโลยี Blockchain ในเรื่องการรักษาความลับ หรือว่าเรื่องของความง่ายต่อการแจ้งเบาะแส ก็ถือว่าเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่มีการใช้ Open Platform ในลักษณะที่กว้างขวาง เพื่อให้ทุกคนสามารถที่จะมีส่วนในการปกป้องประเทศและผลประโยชน์ของประชาชน ดูแลภาษีของประชาชน จากงบประมาณสูงถึง 3.78 ล้านล้านบาท เงินนอกงบประมาณอีกกว่า 6 ล้านล้านบาท ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้กระบวนการตรวจสอบของฝ่ายนิติบัญญัติ

ตรงนี้เองคือสิ่งที่หวังว่าประเทศไทยต้องดีขึ้น สถานการณ์คอร์รัปชั่นจะต้องดีขึ้นจากความร่วมมือระหว่างสถาบัน FKII กับสมาคมผู้สื่อข่าวต้านคอร์รัปชั่นฯ รวมทั้งเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งถือเป็นก้าวแรก อาจจะเป็นก้าวเล็กๆ แต่จะเป็นย่างก้าวที่บ่งบอกว่าการเดินในทิศทางนี้ จะช่วยให้ประชาชนตระหนัก ตื่นรู้ต่อปัญหาคอร์รัปชั่นที่เหมือนมะเร็งร้ายระยะสุดท้ายของประเทศ ซึ่งแม้แต่เล็กๆ น้อยๆ ทุกคนก็สามารถมีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแส เช่น ถนนทำได้เพียง 2 เดือนพังแล้ว เสาแสงสว่างต้นละไม่ถึง 1 หมื่น แต่ท้องถิ่นและส่วนกลางซื้อต้นละ 7 หมื่น ตอนนี้ระดมซื้อไปเกือบหมื่นล้านบาท ไม่ใช่แค่กินเล็กกินน้อย นี่มันกำลังกินประเทศทั้งประเทศ

ขณะเดียวกัน รายได้ส่วนใหญ่ของงบประมาณประเทศ หรือคิดเป็นรายได้เกือบ 90% มาจากภาษี และภาษีที่เก็บได้มากที่สุดคือภาษีของพี่น้องประชาชน นั่นคือภาษีทางอ้อม หรือภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่เราจ่ายทุกวัน ส่วนภาษีทางตรงคือภาษีนิติบุคคล ภาษีบุคคลธรรมดา ก็หลบเลี่ยง ยิ่งรวยยิ่งเลี่ยง แต่คนที่เลี่ยงไม่ได้คือคนตัวเล็กๆ คือประชาชนคนส่วนใหญ่ แล้วก็พวก SME ถึงเวลาที่เราต้องลุกขึ้นสู้ ไม่ใช่สู้เพื่อตัวเอง แต่เราสู้เพื่ออนาคตที่ดีกว่าของประเทศ

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad



Pages