นายชายศักดิ์ วุฒิศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 5 นครราชสีมา (สศท.5) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า จังหวัดชัยภูมิเป็นแหล่งปลูกกล้วยหอมทองสำคัญอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย และเป็นพืชเศรษฐกิจมูลค่าสูงที่สร้างรายได้ให้จังหวัด เกษตรกรนิยมปลูกพันธุ์คอสมอสแซล หรือพันธุ์กาบดำ ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือ ผลไม่ใหญ่มากพอดีคำ มีเนื้อเหนียวนุ่มละเอียด ผลดิบสีเขียวนวล ผลสุกสีเหลืองนวล ไม่มีจุดดำที่เปลือก เปลือกหนา เนื้อกล้วยจึงไม่ช้ำง่าย รสชาติหอมหวาน จนได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2566 สินค้าเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ สร้างอาชีพ สร้างรายได้งามให้แก่เกษตรกรในจังหวัดชัยภูมิ เป็นอย่างดีจากการลงพื้นที่ติดตามของ สศท.5 พบว่า พื้นที่ปลูกกระจายอยู่ในอำเภอหนองบัวแดง อำเภอแก้งคร้อ อำเภอเมือง อำเภอจัตุรัส อำเภอภักดีชุมพล และอำเภอเกษตรสมบูรณ์ โดยเกษตรกรในพื้นที่มีการรวมกลุ่มแปลงใหญ่เพื่อบริหารจัดการผลผลิตร่วมกัน คือ กลุ่มแปลงใหญ่กล้วยหอมทองเพื่อการส่งออกหนองบัวแดง อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการวางแผนการผลิตและการตลาดอย่างเป็นระบบ ผลผลิตผ่านการรับรองมาตรฐาน GAP และได้รับการรับรองเป็นสินค้า GI กลุ่มเริ่มดำเนินการเมื่อปี 2559 ปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกกล้วยหอมทองที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร รวม 570 ไร่ (ปลูกเฉลี่ย 5–10 ไร่/ครัวเรือน) มีเกษตรกรสมาชิก 35 ราย โดยมีนายอุดมศักดิ์ เพิงจันดา เป็นประธานกลุ่ม ซึ่งภายในกลุ่มมีการบริหารจัดการให้ผลผลิตออกสู่ตลอดทั้งปี โดยการหมุนเวียนการปลูกของสมาชิกภายในกลุ่ม ด้านสถานการณ์การผลิตของกลุ่ม ปี 2568 เกษตรกรจัดสรรพื้นที่ปลูก 1 ไร่ ปลูกประมาณ 400 ต้น ระยะเวลาเพาะปลูก จนถึงเก็บเกี่ยว 8–9 เดือน ให้ผลผลิตเฉลี่ย 3,950 กิโลกรัม/ไร่/รอบการผลิต ผลตอบแทนเฉลี่ย 63,608 บาท/ไร่/รอบการผลิต ทั้งนี้ หากคิดเป็นรายได้ของทั้งกลุ่มอยู่ที่ 36.25 ล้านบาท/ปีราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ย ณ เดือนพฤษภาคม 2568 กลุ่มตัดกล้วยหอมทองจำหน่ายแบบยกเครือ แบ่งเป็น 3 เกรด คือ เกรด A (น้ำหนักลูกมากกว่า 110 กรัมขึ้นไป) ราคาอยู่ที่ 17 บาท/หวี,เกรด B (น้ำหนักลูกอยู่ระหว่าง 95-109 กรัม) ราคาอยู่ที่ 13 บาท/หวี สำหรับกล้วยหอมที่ไม่ได้มาตรฐานในการส่งออกจะจำหน่ายภายในประเทศ (น้ำหนักลูกน้อยกว่า 95 กรัม) ราคาอยู่ที่ 10 บาท/กิโลกรัม โดยสัดส่วนของกล้วยหอมทองเกรด A มีมากถึงร้อยละ 79 รองลงมาเกรด B ร้อยละ 20 และกล้วยตกเกรด ร้อยละ 1 โดยกลุ่มมีการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการผลิตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับกลุ่ม มีการวางแผนการผลิตให้มีผลผลิตออกสู่ตลาดต่อเนื่องตลอดทั้งปี จึงเน้นการปลูกแบบ 1 แปลง ห่างกัน 2 เดือนต่อเนื่อง ในเกษตรกรแต่ละราย และมีการไว้ผลผลิตตอที่ 2 ประมาณร้อยละ 25 เพื่อลดต้นทุนการผลิต ด้านการจำหน่ายผลผลิต ของกลุ่ม แบ่งเป็น กล้วยหอมทอง ร้อยละ 95 จำหน่ายให้บริษัท เจ เฟรช จำกัด ซึ่งจะเข้ามารับซื้อผลผลิตทุกสัปดาห์ๆละ 1 ครั้งๆละประมาณ 4,000-5,000 กิโลกรัม เพื่อส่งจำหน่ายต่างประเทศ ทำให้ได้ผลตอบแทนที่สูงกว่าตลาดทั่วไป ประกอบกับกลุ่มรักษามาตรฐานสินค้า GI ทำให้สร้างความมั่นใจเรื่องคุณภาพต่อผู้บริโภค และผลผลิต ร้อยละ 5 ส่งจำหน่ายให้กับพ่อค้าในประเทศ เพื่อส่งต่อให้กับตลาดทั่วไปชึ่งมีทั้งผู้บริโภคทั่วไปและโรงงานแปรรูปทั้งนี้ กลุ่มแปลงใหญ่กล้วยหอมทองเพื่อการส่งออกหนองบัวแดง นับเป็นกลุ่มที่ประสบความสำเร็จในการผลิต กล้วยหอมทองเพื่อส่งออก ซึ่งกลุ่มได้มีการพัฒนาคุณภาพการผลิตอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับความต้องการของตลาด ทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้ กลุ่มยังได้รับการส่งเสริมจากหน่วยงานภาครัฐ อาทิ สำนักงานเกษตรจังหวัด สำนักงานพลังงานจังหวัด และพาณิชย์จังหวัด เข้ามาสนับสนุนให้ผลผลิตกล้วยหอมทองของกลุ่มได้รับการรับรองเป็นสินค้า GI และที่สำคัญกลุ่มยังพัฒนาและรักษามาตรฐานของผลผลิตเน้นการผลิตโดยไม่ใช้สารเคมี เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจกับคุณภาพกล้วยหอมทอง หากท่านใดสนใจข้อมูลการผลิตกล้วยหอมทองของกลุ่มแปลงใหญ่กล้วยหอมทองเพื่อการส่งออกหนองบัวแดง อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ นายอุดมศักดิ์ เพิงจันดา โทร 09 4472 4767 ยินดีให้คำปรึกษาทุกท่าน
ข่าว : ส่วนประชาสัมพันธ์
ข้อมูล สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 5 นครราชสีมา
No comments:
Post a Comment