นายนภา รุจิเทศ ร้องสื่อ แฉพระภิกษุ ดร. ฉาว ส่งคลิปภาพลามกให้สีกา สำนักพุทธฯ ตรวจสอบแล้วไม่พบผิด - สำนักข่าวพิมพ์ไทย | www.phimthai.com

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Search This Blog

Wednesday, June 4, 2025

นายนภา รุจิเทศ ร้องสื่อ แฉพระภิกษุ ดร. ฉาว ส่งคลิปภาพลามกให้สีกา สำนักพุทธฯ ตรวจสอบแล้วไม่พบผิด

ชุมพร - นายนภา รุจิเทศ พุทธศาสนิกชนชาวชุมพร ออกมาเรียกร้องให้มีการตรวจสอบพฤติกรรมพระภิกษุชื่อดังในจังหวัดชุมพร หลังพบหลักฐานแชทและคลิปภาพลามกที่ถูกกล่าวหาว่าส่งให้สีกา โดยระบุว่าพฤติกรรมดังกล่าวไม่เหมาะสมและอาจขัดต่อพระธรรมวินัย ซึ่งอาจนำไปสู่การปราชิกและทำลายความศรัทธาของพุทธศาสนิกชน
ร้องเรียนต่อสำนักพุทธและคณะกรรมาธิการ

นายนภา รุจิเทศ เปิดเผยว่า ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติและคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม 2567 เพื่อขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมของ พระ ดร. รูปหนึ่งในจังหวัดชุมพร ที่ถูกกล่าวหาว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสม คบหาสมาคมกับสตรีในทางชู้สาว รวมถึงเรียกร้องผลประโยชน์จากญาติโยมและพระสงฆ์โดยใช้ตำแหน่ง

จากเอกสารร้องเรียนระบุว่า พระภิกษุรูปนี้มีพฤติกรรมคบหาสตรีเพศหลายรายต่อเนื่องเป็นเวลานาน ตั้งแต่จำพรรษาที่วัดปทุมคงคา กรุงเทพฯ จนถึงจังหวัดชุมพร โดยมีหลักฐานแชทไลน์ที่สนทนากับสตรี 2 ราย ได้แก่ นางสาวเอ (นามสมมุติ)ข้าราชการโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม และสตรีอีกคนชื่อ “จุ่ม” โดยใช้ชื่อในแชทว่า “ไผ่ไร้กอ” ซึ่งมีการพูดคุยในลักษณะไม่เหมาะสม
สำนักพุทธฯ และคณะสงฆ์ชุมพรสรุป “ไม่มีความผิด”

หลังจากการร้องเรียน ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดชุมพรได้ส่งเรื่องให้เจ้าคณะจังหวัดชุมพรตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยมีรองเจ้าคณะจังหวัดเป็นประธาน ผลการสอบสวนเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2567 ระบุว่า พระ ดร.ไม่ได้มีพฤติกรรมตามที่ถูกกล่าวหา และมองว่าหลักฐานที่นำเสนอเป็นการสร้างเอกสารเท็จเพื่อกล่าวร้าย จึงให้ยกคำร้องทุกข้อกล่าวหา ส่วนการตรวจสอบบัญชีการเงินนั้น คณะกรรมาธิการระบุว่าไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่
นายนภาฯ ตั้งคำถามถึงความเหมาะสม

นายนภาฯ แสดงความไม่พอใจต่อผลการสอบสวน โดยระบุว่า “หลักฐานชัดเจนขนาดนี้ สังคมก็เห็นอยู่ ว่าแชทและพฤติกรรมแบบนี้ไม่เหมาะสมกับสมณสภาพ ผมเป็นพุทธศาสนิกชนที่อยากรักษาศาสนาไว้ อยากให้มีการตรวจสอบอย่างโปร่งใสและจริงจัง” เขายังเรียกร้องให้มีการสอบสวนใหม่ เพื่อปกป้องความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนและป้องกันไม่ให้เกิดกรณีเช่นนี้อีก
เรียกร้องให้ลงโทษตามพระธรรมวินัย

นายนภาฯ เน้นย้ำว่า หากพบว่าพระภิกษุกระทำผิดจริง ควรดำเนินการลงโทษตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.2505 เพื่อให้เป็นตัวอย่างและรักษาความบริสุทธิ์ของพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระทำที่อาจนำไปสู่การปราชิก ซึ่งเป็นโทษสูงสุดที่ทำให้ขาดจากความเป็นพระ

กรณีนี้ยังคงเป็นที่จับตาของสังคม โดยเฉพาะในยุคที่โซเชียลมีเดียทำให้ข่าวสารแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว การตรวจสอบที่โปร่งใสและเด็ดขาดจะเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนชาวไทย

ที่มา : ข้อมูลจากการสัมภาษณ์นายนภา รุจิเทศ และเอกสารร้องเรียนต่อสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad



Pages