พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ พลตำรวจโท สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ตรวจสอบกรณีดังกล่าว จากการตรวจสอบทราบว่า จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณจุดกลับรถแยกปทุมวัน ถนนพญาไท เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เหตุเกิด เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2568 เวลา 10.40 น. ขณะที่ สิบตำรวจโทอิทธิศักดิ์ฯ ผู้บังคับหมู่ (จราจร) สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน ยืนอำนวยความสะดวกการจราจรอยู่บริเวณแยกปทุมวัน ได้รับแจ้งทางวิทยุจากเจ้าหน้าที่ประจำตู้ควบคุมสัญญาณแยกจุฬาฯ 12 มีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ลักษณะผู้ขับขี่ใส่เสื้อสีดำไม่ได้มีการระบุว่าเป็นไรเดอร์ มีผู้โดยสารใส่เสื้อสีขาวไม่สวมหมวกนิรภัย ขับขี่ฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดง โดยขับขี่มาตามถนนสีลม จากแยกสามย่านย้อนศรจนกระทั่งมาถึงจุดกลับรถบริเวณดังกล่าว ลักษณะคล้ายกับต้องการหลบหนีการจับกุมจึงเป็นเหตุต้องสงสัยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการเรียกหยุดเพื่อทำการตรวจสอบ สิบตำรวจโทอิทธิศักดิ์ฯ ยืนอยู่บริเวณจุดกลับรถ ได้เห็นรถคันดังกล่าวขับรถจากช่องทางซ้ายสุดเปลี่ยนมาช่องทางขวาสุดเพื่อจะกลับรถบริเวณก่อนถึงแยกปทุมวัน สิบตำรวจโทอิทธิศักดิ์ฯ จึงได้เดินไปเรียกให้หยุดแต่ผู้ขับขี่คันดังกล่าวไม่หยุด และเกิดเหตุการณ์เข้าไปติดตามจนเป็นเหตุรถล้ม ทำให้ สิบตำรวจโทอิทธิศักดิ์ฯ,นายอาทิตย์ฯ ผู้ขับขี่ และ ผู้โดยสารซ้อนท้าย ได้รับบาดเจ็บ
เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน ได้รับคำร้องทุกข์หรือกล่าวโทษ ไว้เป็นคดีจราจรที่ 159/2568 ลงวันที่ 12 มิถุนายน 2568 ดำเนินคดี กับนายอาทิตย์ฯ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อหา ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรสีแดง,ไม่มีใบอนุญาตขับขี่สาธารณะ,ไม่จัดให้ผู้โดยสารสวมหมวกนิรภัย,ไม่หยุดรถตามคำสั่งของเจ้าพนักงานจราจร ดำเนินการตามกฎหมายแล้ว
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐฯ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีการกำชับการปฏิบัติตามแนวทางบังคับใช้กฎหมายจราจรด้วยความเหมาะสมมาโดยตลอด กรณีดังกล่าวเป็นเหตุซึ่งหน้า จึงทำให้มีเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้น กองบัญชาการตำรวจนครบาล,กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 และ สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน ได้ดำเนินการทบทวนการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งหากปฏิบัติในลักษณะเช่นนี้ อาจจะเกิดอันตรายต่อผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้ทั้งนี้ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยันว่า ทางผู้บังคับบัญชาจะช่วยดูแลกรณีผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บดังกล่าวอย่างเต็มที่ และได้มีการสั่งการให้มีการกวดขันจับกุมผู้กระทำผิด โดยเน้นที่ตัวผู้กระทำผิดและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้ปฏิบัติหน้าที่นั้น ต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดในภาพรวมเป็นหลัก และจะได้ทำความเข้าใจและอบรมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้เข้าใจในวิธีการปฏิบัติ ให้รอบคอบ ปลอดภัย ถูกต้องตามหลักการและยุทธวิธีต่อไป ซึ่งกรณีนี้ หากเจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำความผิดเกินกว่าเหตุจนเป็นเหตุให้มีผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ก็พร้อมที่จะแสดงความรับผิดชอบ และดำเนินการตามกรอบของกฎหมายต่อไปในช่วง เวลา 20.30 น.ที่ผ่านมา พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐฯ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ พลตำรวจโทสยามฯ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้เข้าเยี่ยมเยียนผู้บาดเจ็บเพื่อแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และสอบถามอาการผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาล พร้อมด้วย ผู้กำกับการสถานีตำรวจ
No comments:
Post a Comment