พล.ต.ท. ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีโฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมาปฏิเสธ กรณีอุบัติเหตุ BMW ป้ายแดงกับรถกระบะ - สำนักข่าวพิมพ์ไทย | www.phimthai.com

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Search This Blog

Thursday, April 17, 2025

พล.ต.ท. ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีโฆษกพรรคเพื่อไทย ออกมาปฏิเสธ กรณีอุบัติเหตุ BMW ป้ายแดงกับรถกระบะ

โดยชี้คู่กรณีเป็นนักการเมืองท้องถิ่น ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และอย่าโยงว่า เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทยนั้น
พล.ต.ท.ปิยะฯ กล่าวว่า “ประชาชน และสังคมไม่ได้ให้ความสำคัญว่า คู่กรณี สังกัด พรรคเพื่อไทยหรือไม่ เพราะว่าจะสังกัดพรรคเพื่อไทย หรือไม่ได้สังกัด ก็ไม่เกิดประโยชน์กับสังคมแต่อย่างใด แต่ที่สำคัญที่ประชาชนและสังคมเป็นห่วง ว่าคู่กรณีมีความสนิทสนมกับ ท่านนายกรัฐมนตรี และพ่อท่านนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะท่านนายกรัฐมนตรีดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจอาจจะมีผลต่อการแทรกแซง หรือเกิดความเกรงใจ ทำให้คดีไม่ตรงไปตรงมาได้“
พล.ต.ท.ปิยะฯ กล่าวว่า  “ท่านนายกฯ คงปฏิเสธไม่ได้ ว่าเป็นเรื่องบังเอิญ เพราะในวันนั้น ทั้งท่านนายกฯ และ พ่อท่านนายกฯ ตั้งใจเดินทางไปเป็นประธานในงานบวชคู่กรณีดังกล่าว ถึงปทุมธานี เรื่องนี้ท่านโฆษกพรรคเพื่อไทย คงปฏิเสธไม่ได้เช่นกัน เพราะ ”ภาพมันฟ้อง“ ทั้งภาพและคลิปว่อนอยู่ในโซเชียลมีเดีย และในข่าวต่างๆอยู่เป็นพันๆรูปพี่น้องประชาชนและสังคมทั่วไปเห็นกันหมด มันปกปิดไม่ได้ และเบี่ยงเบนเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ด้วยเช่นกัน เพราะการที่ ท่านนายกฯและพ่อท่าน ไปร่วมงานเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2567 หลังจากที่นายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อัยการสูงสุด ได้ตรวจพิจารณาสำนวน และมีคำสั่งคดีเมื่อวันที่ 27 พ.ค.2567 โดยสั่งฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญา ฐานร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 มาตรา 112 คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 41 ลงวันที่ 21 ต.ค. 2519 ข้อ 1 พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 3 มาตรา 14 (3) พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 มาตรา 8 และนัดหมายให้มารายงานตัวที่สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ถ.รัชดาภิเษก ช่วงเช้าวันที่ 29 พ.ค.2567 ตามนัดหมายของสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 8 เพื่อให้ไปรับฟังคำสั่งคดี แต่นายทักษิณฯ ทำหนังสือถึงอัยการแจ้งขอเลื่อนการฟังคำสั่งคดีออกไปก่อน โดยให้เหตุผลว่า “ติดโควิด-19” พร้อมแนบใบรับรองแพทย์ประกอบ โดยแพทย์ให้หยุดพักเพื่อสังเกตอาการ และไม่มารายงานตัวต่อพนักงานอัยการ ตามกำหนดนัดแต่อย่างใด” 

“ท่านอาจปฏิเสธได้ว่า ไม่สนิทสนมกันมาก แต่ถ้าไม่สนิทสนมกันมาก ก็คงจะไม่ไปทั้งพ่อลูก และไปทั้งๆที่เพิ่งหาย จากป่วยโรคโควิดแท้ๆ ยังอุตส่าห์ไปขึ้นเวที และเป็นประธาน ให้ พี่น้องประชาชนตัดสินใจได้ชัดเจนว่า เรื่องไหนสำคัญกว่ากันระหว่างการรายงานตัวตามคำสั่งในคดี ม.112 กับ การเป็นประธานฯงานบวช” พล.ต.ท.ปิยะฯ กล่าว



No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad



Pages