วันทึ่ 27 ก.ย.2567 กรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ว่า เมื่อเวลา 15.00 น ที่ผ่านมา ที่สถานนีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,934 ลบ.ม./วินาที มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อรวมกับปริมาณจากแม่น้ำสะแกกรังที่ไหลมาสมทบ จะทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยายกตัวสูงขึ้นตามลำดับ กรมชลประทาน ได้บริหารจัดการน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา ตามศักยภาพของคลองและสอดคล้องกับปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่ พร้อมปรับการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในอัตรา 1,800 ลบ.ม./วินาที เนื่องจากพื้นที่ทางตอนบนของลุ่มน้ำ ยังคงมีฝนตกกระจายหลายพื้นที่ ซึ่งจะส่งผลให้มีปริมาณไหลลงสู่เขื่อนเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่อง กรมชลประทาน จึงจะทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำแบบขั้นบันได ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ดังนี้
วันที่ 27 ก.ย.2567 เวลา 19.00 น. ปรับจากอัตรา 1,800 ลบ.ม./วินาที เป็น 1,850 ลบ.ม./วินาที ในเวลา 22.00 น.
ต่อมาในวันที่ 28 ก.ย.2567 เวลา 06.00 น. ปรับจากอัตรา 1,850 ลบ.ม./วินาที เป็น 1,900 ลบ.ม./วินาที ในเวลา 09.00 น. และคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่อง
จากสถานการณ์ดังกล่าว จะส่งผลให้ระดับน้ำบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำบริเวณคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และ ต.หัวเวียง อ.เสนา,ต.ลาดชิด,ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย) เพิ่มสูงขึ้น จึงขอให้ประชาชนเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำจากระดับน้ำทางตอนบนและฝนที่ตกในพื้นที่อย่างใกล้ชิด หากระดับน้ำทางตอนบนเพิ่มสูงขึ้น และจะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อไป
No comments:
Post a Comment