(อผศ.) จัดงานรำลึกทหารอาสาสงครามโลกครั้งที่ 1 “แม่ทัพกุ้ง” เล่าไทม์ไลน์ก่อนเกิดศึกกัมพูชา ขอบคุณเขมรยิงก่อนเราได้โอกาสรบชิงแผ่นดินคืน ยัน “ปราสาทตาควาย” เป็นของไทย การทวงคืนต้องให้ผู้มีอำนาจในปัจจุบันดำเนินการ มั่นใจแก้ไขได้ มองกัมพูชาตระบัตสัตย์ หากวางทุ่นระเบิดใหม่ ต้องเก็บหลักฐานประท้วงประชาคมโลก ย้ำ “มูลนิธิแม่ทัพกุ้ง” ยังก่อตั้งไม่เสร็จ เตือนระวังถูกหลอกโอนเงิน
(อผศ.) จัดงานรำลึกองค์การทหารผ่านศึก จัดงานสำคัญเนื่องในวันที่ระลึกทหารอาสาสงครามโลกครั้งที่ 1 ในหัวข้อเรื่อง "เกียรติภูมิของทหารไทย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน 2568 โดยก่อนอื่นมีพิธีน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ มีการเสวนาให้ความรู้แก่นักศึกษาวิชาทหาร โดยการให้นักจำลองประวัติศาสตร์ บรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของสงครามโลกครั้งที่ 1หลังจากนั้น พลเอก กานต์นาท นิกรยานนท์ ผู้อำนวยการองค์การทหารผ่านศึก (อผศ.)/ประธานในพิธี ได้กล่าวคำสดุดีแก่กำลังพลังพลที่เสียชีวิตฯ จาก จากสถานการณ์พิพาทชายแดนไทย–กัมพูชา และมาถึงช่วงเวลาสำคัญ โดยมีการเชิญ พลโท บุญสิน พาดกลาง ที่ปรึกษาผู้บัญชาการทหารบก อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ริว ภาสกร นิยติวัฒน์ชาญชัย และนักศึกษาวิชาทหารขึ้นบนเวที เพื่อร่วมเสวนาในหัวข้อ "เกียรติภูมิของทหารไทย"
“แม่ทัพกุ้ง” ย้ำกับเขมร ต้องรู้ทัน ไม่ประมาท พลโท บุญสินฯ ได้กล่าวถึง พฤติกรรมของกัมพูชาที่พูดอย่างทำอย่าง พร้อมตั้งคำถามว่า ซึ่งเราต้องศึกษาว่า เขามีพฤติกรรมอย่างไร โดยไม่ประมาท ต้องรู้ทัน ซึ่งสิ่งที่เขาทำอาจจะไม่มีคุณธรรม หรือจริยธรรม ที่มีการยั่วยุ หรือเผาศาลาตรีมุข และนำกำลังล้ำเข้ามาในเขตไทย ซึ่งทหารที่แต่งเครื่องแบบจะไม่ค่อยทำกัน เพราะถือเป็นการหยามศักดิ์ศรีของทหารอีกประเทศหนึ่ง ซึ่งแต่ก่อนไม่มี และละเมิด MOU2543 อยู่บ่อยครั้ง อย่างไรก็ตาม ต้องขอบคุณเขมรที่มายิงก่อน เราจึงได้โอกาสรบชิงแผ่นดินคืน
พลโท บุญสินฯ ยังพูดถึงการปิดด่าน ซึ่งก็เป็นการใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก โดยต้องเพิ่มความเข้มงวดในการปิดด่าน อย่างไรก็ตาม เมื่อต้องเพิ่มความเข้มข้นก็เกิดผลกระทบ ฝ่ายกัมพูชาก็มาขอเจรจาว่า จะถอนกำลัง โดยเมื่อถอนกำลัง ก็มีเหตุการณ์ที่ประสาทตาเมือนธมอีก ซึ่งตนก็หวังว่า เยาวชนของทั้งสองประเทศ จะไม่เกิดการทะเลาะวิวาทกันพลโท บุญสินฯ กล่าวถึงแนวคิดของผู้บังคับบัญชาของทหารไทยในการรบว่า ต้องปกป้องชีวิตทหารไทยให้ได้มากที่สุด ส่วนของฝั่งกัมพูชา ไม่ได้สนใจชีวิตทหารเขา ยังใช้วีธีการรบแบบทุ่มกำลัง แบบสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งที่ปราสาทตาเมือนธม เขาก็ได้ใช้กำลังเยอะมาก ขึ้นมาทีประมาณ 100-200 นาย ส่วนทหารไทยอยู่ประมาณ 50 คน เพื่อรักษาปราสาท ซึ่งเราคิดไว้อยู่แล้ว ว่า เขาจะมาแบบนี้ จึงได้มีการวางแผนไว้ ซึ่งไทยพร้อมตอบโต้ทุกรูปแบบ ยัน “ปราสาทตาควาย” เป็นของไทย การทวงคืนต้องให้ผู้มีอำนาจในปัจจุบันดำเนินการ
เผย “มูลนิธิแม่ทัพกุ้ง” ยังไม่เสร็จ อย่าเชื่อโอนเงินไป เมื่อพูดถึงปัจจัยมาจากหลายสถานการณ์ อาทิ การเมือง,การแย่งทรัพยากรทางทะเลนั้นมีผลต่อกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา พลโท บุญสินฯ กล่าวว่า เริ่มนั้นเป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชาระดับสูง แต่ส่วนของแม่ทัพคือ ยึดแผนที่ 1:50,000 ซึ่งตนก็ได้ดูแผนที่ทุกวัน ซึ่งการที่เขาเข้ามายั่วยุด้วยวัตถุประสงค์ใดนั้นก็เป็นเรื่องของหน่วยเหนือ ที่จะไปวิเคราะห์ แต่ว่า อย่ามาล้ำแดนในช่วงที่ตนทำหน้าที่อยู่ และต้องหาเรื่องให้เขาออกจากพื้นที่ให้ได้ การที่นำทหารมีปืน เข้ามาอยู่ในพื้นที่ของเรา ถือเป็นการหยามเกียรติไทยมากส่วนสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ในขณะนี้ โดยเฉพาะความจริงใจในการแก้ปัญหาของฝ่ายกัมพูชา นั้น พล.ท.บุญสินฯ กล่าวว่า แม่ทัพ 2 คนปัจจุบัน ได้ทำตามนโยบาย และกรอบการเจรจาระหว่างกันอยู่แล้ว ทั้ง GBC และ RBC ที่ผ่านมา ขั้นตอนต่อไปคือการถอนอาวุธหนักจากพื้นที่ แต่ความจริงใจในการแก้ปัญหาจะต้องขึ้นอยู่กับ ผบ.หน่วยในพื้นที่ และผู้นำกัมพูชา ว่าจริงใจในการแก้ปัญหาหรือไม่ พื้นที่ตรงไหนที่เรายืนยันว่าต้องถอนกำลังก็ต้องถอน และต้องยืนยันอย่างหนักแน่น ซึ่งผู้นำทุกระดับต้องคุยกัน โดยหากช่วงต่อไป หากมีการวางทุ่นระเบิดใหม่ ทางฝ่ายเราจะต้องเก็บหลักฐานประท้วงประชาคมโลก
สำหรับความคืบหน้าการจัดตั้งมูลนิธิแม่ทัพกุ้ง พล.ท.บุญสินฯ กล่าวว่า ยังไม่แล้วเสร็จ ยังไม่สมบูรณ์แบบ ยังไม่ได้รับการอนุมัติหรือประกาศในราชกิจจานุเบกษา ยังไม่เป็นทางการ แต่จะเป็นช่องทางหนึ่งที่จะอยากช่วยเหลือพี่น้องคนไทยทั่วประเทศ และผู้ด้อยโอกาส ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนจะช่วยประเทศชาติได้ แต่ปัจจุบันยังไม่มีหมายเลขบัญชีอย่างเป็นทางการ จึงอย่าเพิ่งโอนงบประมาณมาช่วย เพราะอาจจะถูกหลอกได้


















No comments:
Post a Comment